จังหวัดกาญจนบุรี มีศักยภาพสูงในการเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดน และมีขีดความสามารถเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจภาคตะวันตก ในด้านการค้าการลงทุนชายแดน ได้อย่างดีเขตเศรษฐกิจชายแดนกาญจนบุรี เมื่อเชื่อมโยงกับท่าเรือน้ำลึกทวาย จะทำให้สามารถขนส่งและแปรรูป วัตถุดิบและสินค้าสู่ตลาดโลกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลัก ที่จะกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมต่างๆ ของภาคตะวันตก
สาเหตุที่พิจารณาว่าพื้นที่บริเวณนี้มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดนเมื่อเปรียบเทียบกับแนวพื้นที่อื่น เนื่องจาก
(1) การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือน้ำลึกทวาย จะเปิดประเทศสู่เส้นทางเดินเรือใหม่ของโลก โดยจะมี Transborder Corridor มาเชื่อมโยงกับไทยบริเวณบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี เป็น โอกาสในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจชายแดนกาญจนบุรี เพื่อรองรับอุตสาหกรรมหนักในนิคมอุตสาหกรรมทวาย โดยจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนของกาญจนบุรี
(2) มีบริการสนับสนุนอย่างเพียงพอจากเมืองกาญจนบุรี (บริการธุรกิจ การศึกษา ฯลฯ)
(3) จังหวัดกาญจนบุรีสามารถเชื่อมโยงสู่กรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีระยะทาง 128 กม.ถึงกรุงเทพฯ 258 กม. ถึงท่าเรือแหลมฉบัง และ 478 กม. ถึงชุมพร
(4) จังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่ที่ใช้ในราชการทหารขนาดใหญ่ ซึ่งมีโอกาสขอใช้บางส่วนเพื่อจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน
(5) เขตเศรษฐกิจชายแดนกาญจนบุรี เมื่อผนวกกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวาย จะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขข้อจำกัดการขยายพื้นที่อุตสาหกรรมของประเทศไทย และ สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต
การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุน
การพัฒนา โครงข่ายขนส่งคุณภาพสูงระหว่างกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อนเพื่อเชื่อม โยงกับ Transborder Corridor จากโครงการ Dawei Development เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้เกิดโครงข่ายขนส่งที่มีคุณภาพ เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์และการค้าการลงทุน ระหว่างประเทศไทยกับสหภาพพม่า และเชื่อมโยงศักยภาพทางเศรษฐกิจระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ Dawei กับเขตเศรษฐกิจชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งหมายรวมถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดในภาคตะวันตกทั้งหมด
แผนการพัฒนาทางหลวงในอนาคต
โครงการทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 97 กม. เป็นทางหลวงพิเศษแนวใหม่บนพื้นดิน ขนาด 4-6 ช่อง จราจร ควบคุมทางเข้า-ออก แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 บางใหญ่-นครปฐม ระยะทาง 47 กม. ก่อสร้าง 6 ช่องจราจร และช่วงที่ 2 นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 50 กม. ก่อสร้าง 4 ช่องจราจร โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาแหล่งทุนเพื่อดำเนินการก่อสร้าง
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย กาญจนบุรี-ชายแดนไทย/พม่า บ้านพุน้ำร้อน) ระยะทาง 70 กม. อยู่ระหว่างเสนอของบประมาณปี 2555 เพื่อจ้างศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมเงื่อนไขการออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองทั้งสอง โครงการ จะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับเส้นทางรถไฟ รวมทั้งสายส่งไฟฟ้า ระบบท่อ และสิ่งอำนวยความสะดวกบนเส้นทางให้มีความเหมาะสมและสามารถเชื่อมต่อกับ Transborder Corridor ที่มาจากสหภาพพม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบรถไฟและลานกองตู้สินค้า แผนการพัฒนาระบบรถไฟในอนาคต การศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูงของสำนักงาน นโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เสนอแนะให้มีการพัฒนาเส้นทางรถไฟสายตะวันตกเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อน บ้าน ในเส้นทางสายน้ำตก-ด่านเจดีย์สามองค์ ระยะทาง 135 กม. แต่ยังไม่มีการศึกษาเพื่อเชื่อมโยงทางรถไฟถึงบ้านพุน้ำร้อนเพื่อเชื่อมโยง กับพื้นที่อุตสาหกรรมทวาย
ทางอากาศ ภาคตะวันตกมี สนามบิน 4 แห่ง อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี 1 แห่ง คือ สนามบินสุรสีห์ อยู่ในจังหวัดราชบุรี 1 แห่ง คือ สนามบินโพธาราม และอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 แห่ง คือ สนามบินประจวบคีรีขันธ์ และท่าอากาศยานหัวหิน ซึ่งเป็นสนามบินแห่งเดียวในภาคตะวันตกที่ใช้ในเชิงพาณิชย์
กาญจนบุรี ยังไม่มีสนามบินที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ มีแต่สนามบิน พล.ร.9 ในความรับผิดชอบของกองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งใช้เพื่อภารกิจทางทหาร โดยมีศักยภาพที่จะปรับปรุงเพื่อใช้ในกิจการพาณิชย์ได้ สนามบินสุรสีห์ตั้งอยู่ที่ตำบลลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร
"สุกำพล”ลุยสร้างถนน-รถไฟเชื่อมทวาย4.5หมื่นล้าน
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงฯมีแผนผลักดันระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อเชื่อมท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในพม่ามายังไทย ทั้งในส่วนของถนน และทางรถไฟ ในส่วนของรถไฟจะขยายแนวเส้นทางรถไฟ ปัจจุบันสิ้นสุดที่จ.กาญจนบุรี เชื่อมต่อไปยังชายแดนไทย-พม่า การสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยวันที่ 7 ม.ค.นี้ ตนได้รับเชิญจากกระทรวงการคลัง ร่วมคณะเดินทางไปทวาย เพื่อดูความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือและนิคมฯทวาย
นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่ากรมฯมีแผนก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 98 กม. เงินลงทุน 45,886 ล้านบาท เป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 4,851 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 40,495 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 540 ล้านบาท โครงการนี้จะรองรับการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายการเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างประเทศในกลุ่มอนุภาค ลุ่มแม่น้ำโขง พม่า-ไทย-กัมพูชา รวมทั้งเป็นโครงข่ายทางสายหลักเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันตก
กรมฯได้สำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จมาตั้งแต่แต่ปี 2552 ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมช่วงบางใหญ่-บ้านโป่ง ตั้งแต่ปี 2541 ส่วนช่วงบ้านโป่ง-กาญจนบุรี ได้รับความเห็นชอบเมื่อปี 2546 ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางและรูปแบบการลงทุนรูปแบบ Public Private Partnership หรือ PPPs โดยให้เอกชนร่วมลงทุน ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการศึกษาจากธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี คาดผลการศึกษาจะเสร็จปี 2555
ทั้งนี้เพื่อให้การเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี สามารถเชื่อมต่อไปถึงชายแดนพม่าได้ จึงได้จ้างบริษัทศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-ชายแดนไทย-พม่า ที่บ้านพุน้ำร้อน ระยะทาง 70 กม. คาดใช้เวลาศึกษา 1 ปี
"มั่นใจจะสร้างระบบถนนไปเชื่อมต่อการคมนาคมที่ท่าเรือน้ำลึกทวายได้ทัน ความต้องการ โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์ เพราะโครงการพร้อมอยู่แล้วรอเพียงรูปแบบการลงทุน ระหว่างนี้ยังมีทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมต่อชายแดนพม่าที่บ้านพุน้ำร้อนอีก 2 ช่องจราจร ยังรองรับการจราจรได้” นายวันชัย กล่าว
ที่ผ่านมาเคยประกาศเชิญชวนผู้สนใจยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2543 แต่ไม่มีเอกชนรายใดสนใจยื่นข้อเสนอลงทุน โดยเปิดให้สัมปทานเอกชน แต่เอกชนต้องจัดหาเงินลงทุนก่อสร้าง และได้สิทธิการบริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง การประกวดราคาครั้งต่อไปจะเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน โดยรัฐบาลจะเป็นผู้พิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมเอง
สำหรับรูปแบบโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี จะก่อสร้างเป็นทางหลวงมาตรฐานสูง ควบคุมการเข้า-ออกอย่างสมบูรณ์ เก็บค่าผ่านทางตามระยะทางหรือระบบปิด การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงบางใหญ่-นครปฐม ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 51 กม. ช่วงนครปฐม-กาญจนบุรี 4 ช่องจราจร ระยะทาง 47 กม. คาดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
นอกจากนั้น ยังมีแผนเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างท่าเรือน้ำลึกทวายกับท่าเรือแหลมฉบัง โดยใช้แนวเส้นทาง ชายแดนพม่า-กาญจนบุรี-ทางหลวงสาย 323 สาย 4 สาย 338-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก-วงแหวนรอบนอกด้านใต้-ทางหลวงสาย 34-มอเตอร์เวย์สาย 7-ท่าเรือแหลมฉบัง และเส้นทางมอเตอร์เวย์ในอนาคตจะเริ่มจากกาญจนบุรี-นครปฐม-บางใหญ่-วงแหวน รอบนอกด้านตะวันออก-มอเตอร์เวย์สาย 7-ท่าเรือแหลมฉบัง
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่าปัจจุบันทางรถไฟสายตะวันตกสิ้นสุดที่น้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี หากจะต่อเชื่อมไปยังชายแดนพม่า เพื่อรองรับการขนส่งจากท่าเรือน้ำลึกทวาย ต้องศึกษาแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมก่อนว่า จะใช้แนวเส้นทางใดเพื่อเชื่อมไปยังชายแดนไทย-พม่า หากกระทรวงคมนาคมมีนโยบายดำเนินการ ร.ฟ.ท. จะศึกษารายละเอียดต่อไป
ที่มา: bangkokbiznews.com
อ่านต่อ: http://www.thai-aec.com/62#ixzz30dffAovl